โรงพยาบาลรามคำแหงได้เปิดดำเนินการในรูปแบบโรงพยาบาลเอกชนทั่วไปขนาดใหญ่ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2531 เพื่อให้บริการรักษาพยาบาลโรคทั่วไปทุกสาขา โดยแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคทุกสาขา พร้อมเครื่องมือวินิจฉัยรักษาโรคที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ให้บริการรักษาผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในด้วยจำนวนเตียงสำหรับรับรองผู้ป่วย 115 เตียง พร้อมด้วยบริการรถพยาบาลรับ-ส่งผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2536 โรงพยาบาลเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในนาม "บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน)" ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลรามคำแหงมีเตียงรับรองผู้ป่วยใน 486 เตียง บนเนื้อที่ 36 ไร่ 3 งาน 83 ตารางวา

ในปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีโรงพยาบาลภายใต้การบริหารของบริษัทฯ และบริษัทย่อย รวม 14 แห่ง และมีโรงพยาบาลภายใต้การบริหารของบริษัทร่วมและโรงพยาบาลพันธมิตรอีก 17 แห่ง รวมเป็น 31 แห่ง ซึ่งมีเตียงรองรับผู้ป่วยมากกว่า 6,900 เตียง โดยสามารถรองรับผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยใช้สิทธิตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพรัฐ อาทิ ผู้ป่วยตามโครงการประกันสังคม และผู้ป่วยตามโครงการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

บริษัทฯ บริษัทย่อย บริษัทร่วมและบริษัทที่เกี่ยวข้อง มีแหล่งที่มาของรายได้จาก 4 ธุรกิจ ได้แก่

1. ธุรกิจประกอบกิจการสถานพยาบาลกลุ่ม

บริษัทฯ ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกสาขาและบุคลากรที่มีประสบการณ์ ตลอดจนเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยแก่ผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยตามสิทธิสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ อาทิ ผู้ป่วยตามโครงการประกันสังคม (สปส.) และผู้ป่วยตามโครงการของสำ นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ จัดตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Centre of Excellence) ที่โรงพยาบาลรามคำแหงและมีศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยอย่างครบวงจร ได้แก่

ศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Centre of Excellence) (โรงพยาบาลรามคำแหง)

  1. ศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมง (Heart Center) ดูแลรักษาภาวะทางหัวใจด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมรักษาภาวะฉุกเฉินทางหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง
    • ภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ ผ่านการสวนหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัด
    • ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ด้วยการสวนหัวใจเพื่อทำลายจุดกำเนิดไฟฟ้าที่ผิดปกติ
    • รักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ด้วยการ “จี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยบอลลูนเย็น” (Cryoablation)
    • ฝังเครื่องควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจหรือเครื่องกระตุ้นหัวใจฉุกเฉิน
    • ตรวจวินิจฉัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยการติดเครื่องบันทึกคลื่นหัวใจแบบติดตัวที่มีความสะดวกสบายมากกว่าเดิม สามารถส่งข้อมูลกลับมายังโรงพยาบาลแบบ real time ได้ในกรณีเกิดความผิดปกติ
    • เปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมผ่านการสวนหลอดเลือดโดยไม่ต้องผ่าตัด
    • ศัลยกรรมหัวใจและช่องอก
    • แผนกฟื้นฟู สมรรถภาพหัวใจและปอดเพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแรง
    • รถพยาบาลฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ (Mobile CCU)
  2. ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องเนื้องอกต่อมใต้สมอง (RAM Pituitary Center) ผ่าตัดส่งกล้องด้วยความแม่นยำและปลอดภัย ไม่มีแผลภายนอก และสามารถฟื้นตัวได้เร็ว
  3. ศูนย์สมองและระบบประสาท (Neurology)
    • อายุรกรรมระบบประสาทและสมอง ให้การรักษาภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์
    • การรักษาภาวะการณ์เคลื่อนไหวผิดปกติ ความเจ็บปวด และกล้ามเนื้อเกร็งตัว ด้วยการฉีดสาร Botulinum toxin
    • การฟื้นฟู ภาวะอัมพาต โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาการปวดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS และ PMS
    • ศูนย์อัมพาตเฉียบพลัน ศูนย์หลอดเลือดตีบเฉียบพลัน
    • การทำกายภาพบำบัดและฟื้นฟู ด้วยหุ่นยนต์ช่วยฝึกเดิน
  4. ศัลยกรรมระบบประสาทและทางสมอง (Neurology & Neurosurgery Center)
    • ศูนย์ผ่าตัดและรักษาภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง
    • ศูนย์ผ่าตัดเนื้องอกในสมอง เนื้องอกในกระดูกสันหลัง
    • ศูนย์รักษาภาวะเส้นเลือดสมอง เส้นเลือดกดทับเส้นประสาท
    • รักษาภาวะเส้นเลือดสมองอุดตัน ด้วยยาสลายลิ่มเลือด หรือการสวนหลอดเลือดและขยายหลอดเลือด
  5. ศูนย์กระดูกและข้อ
    • ศูนย์ผ่าตัดรักษากระดูกสันหลังและคอ
    • ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า และข้อสะโพก
    • ผ่าตัดข้อไหล่ผ่านกล้อง
    • ผ่าตัดส่องกล้องมือและข้อมือ
    • รักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทโดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยวิธี Nucleoplasty
    • รักษาภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ภาวะกระดูกสันหลังงอกทับเส้นประสาทด้วยการผ่าตัดแผลเล็กผ่านกล้อง การจี้สลายหมอนรองกระดูกด้วยคลื่นวิทยุ
  6. ศูนย์เบาหวานและรักษาแผลเบาหวานที่เท้า (Diabetic Foot Center) ดูแลโดยอายุรแพทย์ระบบต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม และทีมแพทย์สหสาขา รักษาแผลเบาหวานที่เท้าและเส้นเลือดอุดตันด้วยการสวนหลอดเลือด เพื่อลดโอกาสการโดนตัดเท้าด้วยการสวนหลอดเลือด และการรักษาด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy) เพื่อลดโอกาสการโดนตัดเท้า
  7. ศูนย์การผ่าตัดส่องกล้องหู คอ จมูก
    • รักษาภาวะไซนัสอักเสบเรื้อรัง ภาวะผนังกันจมูกคด ด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง FESS
    • รักษาภาวะเวียนศีรษะบ้านหมุน และโรคทางระบบประสาทหู
    • ผ่าตัดทอนซิล ตำแหน่งการอุดกลั้นทางเดินหายใจที่ทำให้นอนกรน ผ่าตัดเนื้องอกโคนลิ้น
    • ผ่าตัดแก้ไขเสียงแหบจากสายเสียงอัมพาต
    • การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ผ่านกล้องแบบแผลเล็กและแบบไร้แผลจากภายนอก
  8. ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์
    • รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรคสะเก็ดเงินและโรคผิวหนังด้วยการฉายแสง UV (Phototherapy)
    • รักษาภาวะทางผิวหนังและความงามด้วยเลเซอร์ และเครื่องมือรักษาทางผิวหนังเฉพาะทาง
    • รักษาภาวะทางผิวหนังและความงามด้วยเลเซอร์และเครื่องมือทางผิวหนังเฉพาะทาง เช่น Micro focus ultrasound เพื่อยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด หรือการรักษาภาวะเม็ดสี ด้วยเลเซอร์เม็ดสี ชนิด Pico second laser ด้วยเครื่องมือคุณภาพสูงที่ได้รับมาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  9. ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ
    • โรคลำไส้อักเสบ ตับแข็ง นิ่วในถุงน้ำดี
    • โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่
    • การรักษาด้วยวิธี TACE ทางเลือกรักษา “มะเร็งตับ” โดยไม่ต้องผ่าตัด
    • ให้การวินิจฉัยและการรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัย อาทิ GI Endoscopy, CT scan, MRI, Intervention Radiology
  10. ศูนย์ผ่าตัดเปลี่ยนไต ในปี 2564 โรงพยาบาลรามคำแหง ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นสถานพยาบาลที่สามารถทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไตให้กับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับการรักษาพยาบาลและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามคำแหงได้เป็นอย่างดี
  11. ศูนย์ดูแลสุขภาพและน้ำหนัก ศูนย์ดูแลสุขภาพและน้ำหนักพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลการลดน้ำหนักแบบเฉพาะบุคคลโดยทีมแพทย์ และผู้ชำนาญการจากสหสาขาวิชาชีพด้วยโปรแกรมที่ครอบคลุมโดยเริ่มตั้งแต่การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การให้คำปรึกษาและวางแผน การรับประทานอาหารที่เหมาะสมแบบรายบุคคลภายใต้การดูแลของนักกำ หนดอาหารวิชาชีพ การออกกำลังกาย การใช้ยา และการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารผ่านกล้องแบบแผลเล็ก

ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง (โรงพยาบาลรามคำแหงและโรงพยาบาลในเครือ)

  1. คลินิกตา
  2. คลินิกหู คอ จมูก
  3. คลินิกระบบทางเดินอาหาร
  4. คลินิกสูติ-นรีเวช
  5. คลินิกเด็ก
  6. คลินิกผิวหนัง ศัลยกรรมเลเซอร์
  7. คลินิกทันตกรรม
  8. คลินิกอายุรกรรม
  9. คลินิกทางเดินอาหารและตับ
  10. คลินิกเบาหวาน
  11. แผนกศัลยกรรมทั่วไป
  12. แผนกไต
  13. แผนกกายภาพบำบัด
  14. แผนกมะเร็ง
  15. แผนกจิตเวช
  16. แผนกโรคทางเดินหายใจ
  17. ศูนย์กระดูกและข้อ
  18. แผนกคัดกรองสุขภาพและอาชีวอนามัย
  19. ศูนย์ตรวจสุขภาพ
  20. ห้องพักผู้ป่วย
  21. ห้องพักผู้ป่วยวิกฤต
  22. ศูนย์รังสี และแล็บ
  23. ห้องฉุกเฉิน
  24. แผนกเภสัชกรรม
  25. ศูนย์ดูแลสุขภาพและลดน้ำหนัก

บริษัทฯ ได้นำการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาพยาบาล ช่วยเพิ่มความแม่นยำ รวดเร็วในการวินิจฉัยและรักษา สามารถส่งมอบบริการทางการแพทย์ ในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน เพื่อคุณภาพในการรักษาพยาบาลและประสบการณ์ที่ดี ในการเข้ารับการรักษาของผู้ใช้บริการทุกคน โรงพยาบาลรามคำแหงมีการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Hospital information system) มามากกว่า 10 ปี และมีการพัฒนา application ต่าง ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลให้บริการผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย รวมถึงทำให้ผู้ป่วยและผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการเข้าถึงข้อมูลการรักษา การดูรายละเอียดบริการต่าง ๆ ของโรงพยาบาล ให้ข้อมูลความรู้ในการดูแลรักษาตนเอง และรายละเอียดที่สำคัญของยาที่ได้รับ รวมไปถึงการนัดแพทย์ เลือกซื้ออุปกรณ์การแพทย์และบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพื่อให้โรงพยาบาลรามคำแหงเป็น smart hospital สำหรับผู้ป่วยทุกคนอย่างแท้จริง

นอกจากนั้นยังได้พัฒนาระบบเชื่อมต่อฐานข้อมูลการรักษาพยาบาล ระหว่างโรงพยาบาลในเครือที่ใช้ระบบร่วมกัน เพื่อความสะดวกในกรณีผู้ป่วยไปรักษาต่างโรงพยาบาลช่วยให้แพทย์เข้าถึงข้อมูลประวัติการรักษาที่เป็นประโยชน์ในการดูแล โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ป่วยอย่างสูงสุด

เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางในการสื่อสารแบบออนไลน์ ทั้งบนเว็บไซต์ของโรงพยาบาลและสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงเว็บบอร์ดชั้นนำของประเทศ เช่น Facebook, Line, Pantip.com เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพ แนะนำและสื่อสารบริการทางการแพทย์ต่าง ๆ ของโรงพยาบาล และเป็นช่องทางในการติดต่อและดูแลให้ข้อมูลผู้ป่วยและผู้ที่สนใจบริการของโรงพยาบาล อีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และบริการด้านสุขภาพแบบออนไลน์ผ่านร้านค้าออนไลน์ Ram Market Place และช่องทางการค้าออนไลน์อื่น ๆ เช่น Lazada, Shopee เป็นต้น

โรงพยาบาลภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย

โรงพยาบาลในกลุ่มบริษัทฯ ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อยจะดำเนินการผ่านการส่งกรรมการบางท่านเข้าร่วมบริหารในรูปแบบของการให้คำปรึกษาและแนะนำ ณ 31 ธันวาคม 2567 โรงพยาบาลภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีทั้งสิ้น 14 แห่ง ได้แก่

  1. โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ขนาด 486 เตียง ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง เปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไปตั้งแต่ปี 2531 ให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานระดับสากล ปัจจุบันมีศูนย์แห่งความเป็นเลิศเฉพาะทาง 10 ศูนย์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยของโรงพยาบาลและโรงพยาบาลในเครือ
  2. โรงพยาบาลเมืองเลยราม โรงพยาบาลเอกชนขนาด 100 เตียง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดเลย เปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไปตั้งแต่ปี 2539
  3. โรงพยาบาลชัยภูมิราม โรงพยาบาลเอกชนขนาด 60 เตียง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไปตั้งแต่ ปี 2549 ในปี 2565 ได้รับการรับรองมาตรฐาน American Accreditation Commission (AACI) เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการการรักษาแก่ประชาชนในจังหวัดชัยภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง
  4. โรงพยาบาลเชียงราย ราม โรงพยาบาลเอกชนขนาด 59 เตียง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เดิมชื่อโรงพยาบาลเชียงราย อินเตอร์ เปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไปมาตั้งแต่ปี 2560 และเข้าร่วมเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในเดือนมิถุนายน 2565 และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลเชียงราย ราม โดยตั้งแต่ปี 2566 โรงพยาบาลเชียงราย ราม เริ่มเปิดให้บริการผู้ป่วยภายใต้สิทธิประกันสังคมด้วยโควตาผู้ประกันตน 50,000 คน และมีแผนจะเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้เข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
  5. โรงพยาบาลรามคำแหง 2 โรงพยาบาลเอกชนขนาด 560 เตียง เปิดใช้ 75 เตียง ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหงเปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไปตั้งแต่ปี 2566 ให้บริการทางการแพทย์ ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานระดับสากล ในปี 2567 ได้รับการรับรองมาตรฐาน American Accreditation Commission (AACI) เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการการรักษาแก่ประชาชน
  6. กลุ่มโรงพยาบาลวิภาราม โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วย 6 โรงพยาบาลในเครือ 3 โรงพยาบาลสาขา และคลินิกเครือข่ายอีก 2 แห่ง ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และใกล้นิคมอุตสาหกรรมสำคัญของจังหวัดชลบุรี ถือเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเครือข่ายที่แข็งแกร่งและมีบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้บริการการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากลและมาตรฐานของ HA ประกอบไปด้วย
    1. โรงพยาบาลวิภาราม มีโรงพยาบาลสำนักงานใหญ่ โรงพยาบาลสาขา 3 แห่ง และคลินิกเวชกรรม 1 แห่ง ให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม และผู้ป่วยสิทธิบัตรประกันสุขภาพของรัฐ ได้แก่
      • โรงพยาบาล วิภาราม พัฒนาการ (สำนักงานใหญ่) เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาด 150 เตียง ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ ใกล้สี่แยกพัฒนาการ ตัดถนนศรีนครินทร์และใกล้มอเตอร์เวย์สายตะวันออก มุ่งหน้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการรักษาพยาบาลมาตั้งแต่ปี 2541ได้รับใบรับรองคุณภาพระบบมาตรฐาน HA ขั้น 3 โดยปัจจุบันโรงพยาบาลได้มีการเปิดตึกแม่และเด็กใหม่ โดยมีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นอีก 59 เตียง และเตรียมเปิดให้บริการอาคารจอดรถเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าใช้บริการที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
      • โรงพยาบาล วิภาราม สาขาแหลมฉบัง แต่เดิมคือ โรงพยาบาลแหลมฉบังอินเตอร์เนชั่นแนลและเปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาล วิภาราม สาขาแหลมฉบัง เมื่อปี 2557 มีขนาด 100 เตียง ตั้งอยู่ในเทศบาลนครแหลมฉบัง ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ปัจจุบันมีคลินิกเวชกรรมวิภารามแหลมฉบัง สหพัฒน์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นิคมแหลมฉบัง ให้บริการรักษาโรคทั่วไป โรคเรื้อรังและบริการฉีดวัคซีน
      • โรงพยาบาล วิภาราม สาขาสมุทรสาคร เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาด 100 เตียง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2559 ตั้งอยู่ในเทศบาลเมืองสมุทรสาคร อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร นอกจากมีแผนกการรักษาที่ครบวงจรแล้ว ยังเปิดให้บริการแผนกไตเทียมที่รองรับผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม สิทธิต้นสังกัดกรมบัญชีกลางและผู้ป่วยชำระเงินเองอีกด้วย
      • วิภารามอ่อนนุช คลินิกเวชกรรม เป็นคลินิกรองรับผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมของโรงพยาบาล วิภาราม ตั้งอยู่บนถนนอ่อนนุช เขตประเวศ กรุงเทพ
    2. โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาด 125 เตียง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2520 ตั้งอยู่ที่ซอยรามคำแหง 4 เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม และผู้ป่วยสิทธิบัตรประกันสุขภาพของรัฐ
    3. โรงพยาบาลวิภาราม ปากเกร็ด เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาด 100 เตียง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2553 ตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (สะพานพระราม 4) และอุโมงค์ห้าแยกปากเกร็ด ปัจจุบันให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม และผู้ป่วยสิทธิบัตรประกันสุขภาพของรัฐ ปัจจุบันได้รับใบรับรองคุณภาพระบบมาตรฐาน HA ขั้น 3 และเป็นศูนย์หัวใจรองรับผู้ป่วยส่งต่อภายใต้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าอีกด้วย
    4. โรงพยาบาลวิภาราม สมุทรปราการ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาด 30 เตียง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2548 ตั้งอยู่ที่ถนนปู่ เจ้าสมิงพราย พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เดิมชื่อโรงพยาบาลวิภาราม ชัยปราการ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรปราการ เมื่อปี 2565 และในปัจจุบันโรงพยาบาลจะเปิดให้บริการศูนย์รังสีรักษา เพื่อรองรับผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยภายใต้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตามนโยบายส่งเสริมของภาครัฐคือ Cancer Anywhere ที่สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลขึ้นทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งสร้างความสะดวกและลดระยะเวลารอคอยการเข้ารับบริการรังสีรักษาที่จากเดิมต้องเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลรัฐได้
    5. โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาด 137 เตียง เปิดให้บริการในปี 2557 ตั้งอยู่บนถนนทางเข้านิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อยู่บนถนนหลักของนิคมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม และถือเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่ตั้งขึ้นในนิคมอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับพนักงานในโรงงานที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ผู้พักอาศัยโดยรอบและบริเวณใกล้เคียง ได้รับใบรับรองคุณภาพระบบมาตรฐาน HA ขั้น 3 นอกจากมีแผนกการรักษาที่ครบวงจรแล้ว ยังมีศูนย์อาชีวเวชศาสตร์ และศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน ให้การรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ทั้งนี้ โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร มีแผนจะขยายโรงพยาบาลแห่งใหม่ โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปของโครงการโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร 2 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และโครงการโรงพยาบาลวิภาราม อมตะซิตี้ จังหวัดระยอง
    6. โรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง วิภารามอมตะนคร ก่อตั้งด้วยความร่วมมือกับโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็งกรุงเทพ (ถือหุ้นในสัดส่วน 50%) และโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร (ถือหุ้นในสัดส่วน 50%) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562 เพื่อให้การรักษาโรคมะเร็งและศูนย์รังสีรักษา (Radiotherapy และ Oncology) แก่ผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครและประชาชนโดยรอบทั้งผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม โดยรองรับการฉายแสงได้สูงสุดวันละ 110 ท่าน ให้บริการเคมีบำบัดมีเตียงรองรับผู้ป่วย 5 เตียง และให้บริการวางแผนรังสีรักษา (Monaco High Precise Radiotherapy Treatment Planning) ทั้งนี้ โรงพยาบาลได้มีการจัดซื้อเครื่องฉายรังสีอีก 1 เครื่อง เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นทั้งผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยภายใต้สิทธิประกันสังคมส่งต่อภายในเครือ และผู้ป่วยภายใต้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าภายใต้โครงการ Cancer Anywhere โดยมุ่งมั่นเป็นศูนย์ให้การรักษามะเร็งแบบครบวงจรในภาคตะวันออกของประเทศไทย

2. ธุรกิจขายเครื่องมือแพทย์ ยา และเวชภัณฑ์ และบริการสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ (M.I.CAL.SYSTEM)

บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) มีหน่วยงานสั่งซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์ และระบบห้องปฏิบัติการที่มีคุณภาพผ่านบริษัทผู้ผลิตโดยตรง สำหรับใช้ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลในเครือ รวมถึงสามารถจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ ซึ่งการสั่งซื้อเป็นจำนวนมากสำหรับโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำให้มีอำนาจในการต่อรองสูงและช่วยให้โรงพยาบาลในเครือสามารถควบคุมต้นทุนจากเครื่องมือเวชภัณฑ์ และระบบห้องปฏิบัติการที่จำเป็นได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากธุรกิจ M.I.CAL.SYSTEM มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท เอ็ม.ไอ. แคลิเบรชั่น ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทย่อยโดยบริษัทฯ ถือหุ้น 100% เพื่อประกอบธุรกิจขายเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ตรวจปฏิบัติการห้องแล็บ และการสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ ให้แก่บริษัทฯ บริษัทในเครือ และบุคคลภายนอก

ธุรกิจขายเครื่องมือแพทย์ ยา และเวชภัณฑ์ และบริการสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ (M.I.CAL.SYSTEM) ในปี 2567 ทางบริษัทยังคงมีรายได้จากธุรกิจนี้อยู่

  • บริการสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ (M.I.CAL.SYSTEM) จัดตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ ให้เกิดความมั่นใจว่าเครื่องตรวจ เครื่องวัด เครื่องทดสอบ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพในการรักษาผู้ป่วยมีความถูกต้องแม่นยำ เหมาะสมกับการใช้งานตามที่กำหนดไว้ให้เกิดประสิทธิภาพ ในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ 11.35 ล้านบาท
  • ขายเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์บางประเภท เช่น เตียงผ่าตัด โคมไฟ เครื่องต้ม เตียงผู้ป่วย ระบบไฟฟ้า เครื่องปั่นเลือด ตู้อบเด็กแบบไม่เคลื่อนที่ Plate Screw เครื่อง Laser และอื่นๆ ในปี 2567 มีรายได้ 1,229.68 ล้านบาท
  • บริการปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ โรคห้องแล็บ เพื่อให้บริการกับบริษัทย่อย และบริษัทในเครือที่มีเครื่องมือยังไม่พร้อมในการตรวจวิเคราะห์เอง ในปี 2567 มีรายได้ 55.29 ล้านบาท ณ 31 ธันวาคม 2567 รายได้จากการขายเครื่องมือแพทย์ คลินิก แล็บ และบริการสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ (M.I.CAL.SYSTEM) เท่ากับ 1,296.32 ล้านบาท

3. ธุรกิจขายยา และเวชภัณฑ์

บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนในบริษัทร่วมที่ประกอบกิจการขายเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ที่มีประสบการณ์การผลิต นำเข้า จำหน่ายยา เวชภัณฑ์ น้ำยาล้างไต ตลอดจนให้บริการซ่อมแซมเครื่องมือแพทย์

4. การลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทในเครือ

นอกจากธุรกิจกิจการโรงพยาบาลและการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทอื่นๆ ทั้งที่เป็นธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลตลอดจนธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลที่สม่ำเสมอทุกปี จากผลประกอบการของบริษัทที่เข้าไปลงทุน ณ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากเงินปันผล เท่ากับ 267.80 ล้านบาท